วันที่วิ่งลงเขาตามพี่ป๊อก อิทธิพล สมุทรทอง
ปี 2014 ที่เขาไม้แก้ว งานวิ่งเทรล 50 โล วันนั้นบนยอด
ผมวิ่งลงเขาตามเซเลบนักวิ่งท่านหนึ่ง
ที่ยกมือรับไหว้ถ่ายรูปกับคนตลอดทาง
พี่ป๊อกเนี่ยแหละ จำได้ว่า
ลงเขาชัน แต่ตามแกไม่ค่อยจะทัน
ผ่านไป 5 ปี ที่ฮ่องกง…ผมก็ยังตามไม่ทันเหมือนเดิม
“ป่ะ พี่หนุ่ม วิ่งลงเขากัน” สิ้นเสียง พี่ป๊อกก็ยก gopro กด record แล้ววิ่งนำไปผมพยายามตามให้ทันรักษาระยะห่างระหว่างกันเพื่อให้ได้ภาพที่ดีที่สุด
Downhills ไม่ใช่เรื่องง่าย เป็นความสนุกที่แลกด้วยความเสี่ยงล้ม
เจ็บหนัก ที่สุดแล้วของการวิ่งเทรล
นอกจากกล้ามเนื้อ นี่คือเรื่องของใจล้วนๆ
ชายที่ชื่อวินัย
ผมมีโอกาสไปกับพี่ป๊อกที่ฮ่องกงเพื่อไปร่วมกิจกรรมวิ่งเทรลที่ลันเตา
เทรลสวยที่ชันและดิบ ขึ้นชื่อว่ายากอีกเรซหนึ่ง
ระหว่างทริป สิ่งหนึ่งที่พี่ป๊อกทำคือ การทำ if (intermittent fasting )
คือการจัดการกินอาหารเป็นช่วงๆ
แล้วก็การซ้อมวิ่งทุกวัน แม้วันที่กลับโรงแรมค่ำ แกก็ขึ้นไปวิ่งที่ลู่วิ่ง
“ผมไม่อยากขาดซ้อม ตามตาราง”
ตารางซ้อมพี่ป๊อกเป็นไงอ่ะพี่
“ผมมีตารางเดียวเลย ตาราง 100 กิโล ใช้อันเดียวมาตลอด
ส่วนทำ if ผมจะกิน 18/6 คือพัก ไม่กิน 18 ชั่วโมง กินได้ตั้งแต่ช่วงบ่าย 2 ถึง 2 ทุ่ม อย่างไปวิ่งเทรลขึ้นเขาก็ไม่กิน กินแต่กาแฟกับน้ำ แต่พอช่วงเวลากินก็กินปกติทุกอย่าง “ แกทำของแกต่อเนื่องได้มาหลายเดือนละ
จากการติดตามสัมภาษณ์มาหลายคน ผมเห็นสิ่งที่เหมือนกันในตัวนักวิ่งระดับนี้ ก็คือ ทุกคนจะมีชื่อเล่นชื่อเดียวกันหมดคือ “คุณวินัย”
ดึกแค่ไหนแกก็วิ่ง และเข้มงวดกับการกิน เสมอ
หมอกหนา
ผมวิ่งตามพี่ป๊อก ลงเขามาได้สักพักใหญ่ ได้เห็นความลั้นลา
ของชายวัย 50 ที่พาหุ่นลีนกว่าทุกครั้งที่เคยเจอกัน ลงเขาไปอย่างเร็ว
ผ่านหมอกจัดและก้อนหินที่เรียงตัวห่างระเกะระกะ ยากต่อการวางเท้า
พี่ป๊อกเคยมาแข่ง ทรานส์ลันเตา ที่นี่ 3 ครั้ง ฮ่องกง100 6 ครั้ง
โดยเริ่มต้นจุดประกายจากภาพที่เห็นเมื่อครั้งมาไหว้พระที่นองปิง
ระหว่างทางบนกระเช้า แกมองลงมาเห็นทางยาวผ่านเขา
แล้วเกิดความรู้สึกอยากวิ่งบรรยากาศแบบนั้นบ้าง
นั่นคือจุดเริ่มต้น ที่ทำให้ชีวิตการวิ่งเทรลของแกเกิดขึ้น
“เชื่อมั้ย แข่งฮ่องกง 100 ผมไม่เคยมีโอกาสได้วิ่งอัดลงเขาแบบนี้เลยนะ
กลัวล้ม กับต้องเซฟแรง วันนี้สนุกมาก”
ใครดูคลิปที่แกวิ่งคงเห็นอารมณ์สนุกได้ แกวิ่งโลดโผน
ไม่เหมือนคนที่กำลังจะไป วิ่งที่ขั้วโลกเหนือในไม่กี่วันข้างหน้า
“มีคนไทยเคยไปสัก 3-4 คนมั้ง มีพี่ลูกเพชร พี่ศศิ ที่เคยไปขั้วโลกเหนือ
แล้วก็พี่อ๋า คุณธนาธร สองคนนี้ไม่แน่ใจว่าอาร์คติค ส่วนใดส่วนหนึ่งสักที่”
พี่ป๊อกให้ข้อมูลเท่าที่จะจำได้ เรื่องคนไทยกับการวิ่งในภูมิประเทศแบบขั้วโลก อุณภูมิติดลบ 30 องศา
วิ่งสุดขั้วที่ขั้วโลก
“การวิ่งจะเป็น loop 8 รอบ รอบละ 5 กิโลเมตร ประมาณนั้น
แล้วก็วิ่งบนน้ำแข็ง ที่ลอยและเคลื่อนตัว”
แค่ฟังเรื่องวิ่งบนก้อนน้ำแข็งที่เคลื่อนตัวผมก็ตัวสั่น สนุกอยากไปบ้าง
แต่พอฟังเรื่องหมี ผมก็ชักลังเล
“ที่เค้าให้วิ่งเป็นรอบๆเพราะเค้ากลัวหมี เดี๋ยวหมีจะโจมตี”
ผมไปค้นคำเรื่องขั้วโลกเหนือ ที่อยู่ที่อาร์กติก พบว่า
คำว่า อาร์กติก มากจากภาษากรีกโบราณ αρκτος ซึ่งมีความหมายว่า หมี
“ครับพี่ป๊อก โชคดีครับ”
ที่ลันเตาวันนั้นหมอกจัด บดบังทัศนียภาพ แต่ก็ได้บรรยากาศการวิ่ง
ที่ยังไงก็ต้องโฟกัสการวางเท้าเพื่อลงเขาให้ทันพี่ป๊อก
เป็นการวิ่งที่สนุกมากๆ ที่ได้เห็นสเต็ปการวางเท้าแบบสนุกอีกครั้งหนึ่ง
“ผมกลัวทุกครั้งที่ออกจากบ้านนะ” พี่ป๊อกเอ่ยขึ้นบนเครื่อง
ระหว่างทางกลับบ้าน เมื่อถามเรื่องการวิ่งที่ขั้วโลกเหนือ
“ไม่รู้ว่าจะได้กลับบ้านหรือเปล่า ผมถึงหอมแก้มลูกทุกครั้งที่ออกจากบ้าน”
ผมซึ้ง เข้าใจหัวอกพ่อที่เดินทางประจำแบบนี้ แต่ …
“พี่มาพูดอะไรตอนเครื่องกำลังจะขึ้นเนี่ย พอเลย ไม่เอา”
Cx 703 ดีเลย์ไฟท์มา 90 นาทีเพราะอากาศแย่ ผมมองผ่านพี่ป๊อกไปนอกหน้าต่าง ฟ้าแลบ รัวๆขณะเครื่องกำลังขึ้น
ตอนนั้นภาพแรกที่แว๊บขึ้นมาคือหนังเรื่อง final destination
…..
เครื่องบินไต่ระดับ พนักงานเสริฟอาหาร พี่ป๊อกหลับ ส่วนผม…กำลังนึกถึง หนังเรื่อง alive