7สิ่ง ที่เหล่านักวิ่งหน้าใหม่เป็น
และนักวิ่งหน้าเก่าก็ยังเป็น
นักวิ่งหน้าใหม่ น่าจะอายุงานไม่เกิน ปี เราจัดว่าอยู่ในหมวดนี้
freshy runner ใสๆ ที่เต็มไปด้วยความสงสัยกังว ลใจเกี่ยวกับเรื่องวิ่ง นี่คือสิ่งที่เป็นอยู่จริงแ ละอาจติดตัวไปจนวันที่เป็นน ักวิ่งหน้าเก่า runner เจอนี่ สรุปมาให้ฟังกัน จากประสบการณ์ตรงจากเพื่อนๆ น้องๆนักวิ่ง
1 ใจร้อน รีบเพิ่มระยะ เพราะใจมันเกินร้อย
พยายามเพิ่มระยะทางซ้อมเร็ว เกินไป ระยะทางแข่งเร็วเกินไปด้วย กล้ามเนื้อ หัวใจ แขนขา ยังมาไม่พร้อม ระวังจะเจ็บซะก่อน อยากบอกว่า ไม่สำคัญว่าจะวิ่งไกลแค่ไหน เท่าใคร สำคัญว่าทำสม่ำเสมอต่างหาก ใจเย็นๆ
2 กังวลเรื่องสถิติเวลา
กลัววิ่งช้า กลัวอาย บางคนบอกว่ากลัวเข้าเส้นเป็ นคนสุดท้าย อยากถามกลับว่า แล้วไงวะ ดีกว่าไม่วิ่งรึเปล่า
นักวิ่งหน้าใหม่จะห่วงเรื่อ งสถิติเป็นที่สุด ย้ำคิดย้ำทำกับตัวเลขที่ได้ ทุกวี่วัน หยุดวิ่ง ก็จะหยุดนาฬิกากลัวเสียสถิต ิ แล้วก็ดูนาฬิกาตลอดเวลา ใครทักก็ไม่หยุดกลัวเสียเวล าซ้อม
3 รู้สึกผิดในวันที่ไม่ได้วิ่ ง
การไม่ได้วิ่งเพราะติดงานติ ดธุระบ้างหรือป่วย ไม่ใช่เรื่องผิดบาป แหม ก่อนหน้าจะมาวิ่ง ก็นอนกลิ้งไม่เห็นกังวล พักบ้าง ผ่อนบ้าง อย่าเข้มงวดกับตัวเองจนไม่ม ีความสุข
4 ไม่สม่ำเสมอ
อันนี้ก็ตรงกันข้ามกับข้อเม ื่อกี้ คือบทจะซ้อมก็ซ้อม บทจะหายก็หาย นักวิ่งหน้าใหม่เป็นกันทุกค น แอดด้วย พอจะหายนี่ หายไปจนอาย ความสม่ำเสมอสำคัญที่สุด
5 สำลักข้อมูล รู้เยอะค้นเยอะ เกิ๊น จนไม่รู้อะไรเลย
หาข้อมูลจากเพจจากเวปจากเพื ่อนจากกูรู จนกูไม่รู้อะไรเลย บางสำนักว่างั้นบางสำนักว่า งี้ วิธีที่ดีคือเอามันสักทาง แล้วทดลองกับตัวเองสักพัก ค่อยปรับจูน แต่ละสำนักต่างมีดีมีเสียแต กต่างกัน
ฝึกมาสักพักก็จะรู้ละว่าเรา เหมาะกับแบบไหน แต่อย่ายึดติด นั่นคือสิ่งสำคัญที่สุด
6 เคร่ง จนเครียด
ความพยายามดี แต่เคร่งจน ไม่ธรรมชาติ
การเคร่งกับตัวเองทุกเรื่อง จนเหมือนทำโทษตัวเอง
ความเป็นธรรมชาติสำคัญที่สุ ด ทั้งเรื่องของท่าวิ่ง การกินอยู่หลับนอน ใช้วิธีทางสายกลาง แบบธรรมชาติดีที่สุด ท่าวิ่งที่เป็นธรรมชาติคือส บาย แบบเด็กเล็กๆวิ่งเล่นนั่นแห ละ
ไม่ต้องคิดอะไร
7 ดื้อ ไม่เคยฟังใคร
บอกว่าอย่าเพิ่งลงฮาร์ฟ บอกว่าอย่าเพิ่งลงมาราธอน อย่าเพิ่งไปอัลตร้า ก็จะลง แค่นี้นะ เป็นกันทุกคน แอดด้วย
กลับมาถามตัวเองว่าวิ่งทำไม
มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่แอดเค ยคุยด้วยเป็นห่วงนักวิ่งรุ่ นใหม่ๆที่พยายามตามหาความท้ าทายโดยไม่ฟังเสียงร่างกายแ ละคำเตือน
ถ้าเราวิ่งเพื่อสุขภาพ เราอาจไม่ต้องลงงานแข่งใดๆเ ลย ก็ยังได้ แล้วใช้ชีวิตสมดุลระหว่างกา รดูแลร่างกาย. ทำงาน และดูแลครอบครัว
กลับมาถามตัวเองก่อน ว่าเราวิ่งทำไม ถ้าจะหาการยอมรับจากทุกคน ไม่มีวันจบ เพราะคนที่เก่งกว่าคุณมีเยอ ะมาก และถึงคุณจะเก่งกว่าใคร วันนึง ก็จะมีคนเก่งกว่าคุณ (คุณบอยเคเค ได้กล่าวไว้)
แต่ถ้าคุณวิ่งเพื่อสุขภาพจะ